กล้อง Spinner 360°
กล้อง Spinner 360°
- กล้องพาโนรามา 360° ที่อิสระที่สุด
- รูปภาพยาวกว่าภาพแนวนอนทั่วไปถึง 4 เท่า
- แรงบันดาลใจจากแนวคิดล้ำยุคจากปี 1980
- Rubber band drive and fully manual controls
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการภาพแบบพาโนรามาขั้นสุด
สินค้าหมด
Highlights
มันมีเลนส์มุมกว้างที่สวยงามสุดๆ ดังนั้นหากคุณถือมันไว้ที่ระยะแขนแล้วหมุนมัน มันก็ยังจะได้ช็อตที่กว้างพอสมควร
— Awesome Cameras
เพียงแค่นับหนึ่ง สอง สาม จับสปินเนอร์ 360° ด้วยมือข้างหนึ่ง ดึงสายด้วยอีกมือหนึ่งแล้วปล่อย ในเสี้ยววินาที กล้องอนาล็อก 35 มม. ตัวนี้ก็จะหมุน 360° ตามรอบแกนของมันเองและบันทึกทุกอย่างรอบตัวคุณ

ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ กล้องสุดเจ๋งนี้ถ่ายโดยใช้ไดรฟ์ยางรัดที่ควบคุมด้วยตนเอง

ใช้ฟิล์ม 35 มม. หาซื้อได้ไม่ยาก เรามีฟิล์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะให้เลือก เข้าไปดูกันเลย

ปล่อยให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณโลดแล่น! ด้วย Spinner 360° คุณสามารถถ่ายภาพพาโนรามาที่น่าทึ่งได้จากระยะไกลและแม้แต่ในบ้าน เรามีอุปกรณ์ขายแยก
ภาพพาโนรามาที่จะคงอยู่ตลอดไป ภาพของคุณจะยาวกว่าภาพแลนด์สเคปทั่วไปถึงสี่เท่า
เป็นช็อตยาว! กล้อง Spinner 360° ถ่ายภาพพาโนรามาที่ยาวและเปิดรับแสงได้นานด้วยการควบคุมระบบแมนนวล

การตั้งค่ารูรับแสงที่มีแดดจัด/เมฆมาก เพื่อความสนุกแบบ 360° 365 วันตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก
นี่คือกล้องที่ได้ภาพพาโนรามาที่ยอดเยี่ยม มีความยืดหยุ่นและสนุกกับการใช้งานมากๆ
— Pocket-Lint
Story
ก้าวข้ามทุกขอบเขตของภาพถ่ายพาโนรามาแบบปกติ ด้วยการเก็บภาพความทรงจำรอบๆ ตัวคุณผ่านกล้อง Lomography Spinner 360° ที่ให้ภาพมุมมอง 360° โดยใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. ที่หาได้ทั่วไป! วิธีการใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่ถือกล้องไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วดึงเชือกด้วยมืออีกข้างหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ ปล่อยเชือก ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้น กล้องจะหมุนรอบตัวเอง 360° เพื่อบันทึกภาพถ่ายรอบๆ ตัวคุณ

กล้องรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดสุดล้ำในช่วงปี 1980 และแนวคิดของแรงเคลื่อนที่เกิดจากการดึงหนังยางไปในทิศทางต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแนวคิดกล่าวได้ถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นกล้อง Lomography Spinner 360° ที่ยกระดับการถ่ายภาพพาโนรามาไปอีกขั้น และกล้องตัวนี้ใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. ทำให้ภาพเกิดรูหนามเตยในสไตล์กล้องอนาล็อกสุกคลาสสิกด้วย
ประวัติ
กล้องพาโนรามาแบบ 360 องศา เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อจิตรกรชาวอังกฤษ Robert Barker ได้บัญญัติศัพท์คำว่า "panorama" สำหรับภาพวาดของเขาในช่วงปี 1787 ซึ่งคำว่าพาโนรามามาจากภาษากรีก เป็นการรวมกันระหว่างคำว่า pan (ทั้งหมด) และ horama (’ทิวทัศน์’) โดยคำนี้ใช้สื่อถือผลงานของ Barker ที่เป็นภาพอาคารพาโนรามา ณ จตุรัสเลสเตอร์ แห่งกรุงลอนดอน
เมื่อเข้าไปเยี่ยมชมอาคารนี้ ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ได้อยู่ตรงกลางท่ามกลางภาพวาดต่อเนื่องที่แสดงให้เห็นถึงทัศนียภาพต่างๆ เช่น ทิวทัศน์ของกรุงลอนดอน ท่ามกลางการปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่มีการแสดงภาพวาดที่มีมาตราส่วนใหญ่กว่าปกติ โดยที่การแสดงภาพแบบ 360 องศา ทำให้ผู้ชมได้เห้นภาพในมุมมองที่กว้างมากๆ ราวกับว่ากำลังยืนมองวิวเมือง Edinburgh อยู่บน Calton Hill ได้จริงๆ
ไม่นานหลังจากนั้น ในช่วงปี 1826 ชาวฝรั่งเศส Joseph Nicéphore Nièpce ได้คิดค้นการถ่ายภาพแบบใหม่ขึ้น ซึ่งในช่วงเวลานั้นการถ่ายภาพหรือการภาพวาดถูกจำกัดสัดส่วนและขนาดอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ Joseph Puchberger จากออสเตรียก็ได้คิดค้นกล้องพาโนรามาแบบมือหมุนที่ใช้แรงข้อมือในการเหวี่ยงครั้งแรกเมื่อช่วงปี 1843
แต่ท้ายที่สุดแล้วกล้องของ Herr Puchberger สามารถบันทึกภาพผ่านมุมมองได้เพียง 150 องศาแทนที่จะเป็น 360 องศา ดังนั้นในช่วงปี 1857 ชาาอังกฤษ อย่าง M. Garrela ได้จดสิทธิบัตรสำหรับกล้องที่หมุนรอบตัวเองได้ และทำจนกลายเป็นอาชีพเลย ซึ่งเขาได้ผลิตกล้องที่สามารถถ่ายภาพได้ 360 องศาได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยการใช้กลไกลนาฬิกาที่ควบคุมด้วยพัดลม และหลังจากการประดิษฐ์ฟิล์มที่ยืดหยุ่นมากขึ้น (แทนการใช้แผ่นแก้วหนักๆ) ในช่วงปี 1888 กล้องพาโนรามาจำนวนมากในยุโรปและสหรัฐอเมริกาถูกคิดค้นขึ้นเพื่อทำให้การถ่ายภาพพาโนรามาเป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของคนอื่นๆ แต่กล้องเหล่านี้ยังคงหนักมากและใช้งานยาก การถ่ายภาพพาโนรามาจึงเป็นไปได้ยากและมีราคาสูง ซึ่งจุดประสงค์ของเจ้ากล้องแสนหนักตัวนี้ ก็เพื่อถ่ายภาพแลนด์สเคปด้วยความละเอียดสูง สำหรับงานด้านสารคดี, งานด้านการทหาร และงานวิทยาศสตร์
เมื่อช่วงปี 1950 มีการผลิตกล้องขนาดเล็กที่ใช้ฟิล์ม 35 มม. ในการถ่ายภาพพาโนรามาแบบ 360 องศา ทำให้การถ่ายภาพาโนรามาง่ายขึ้นและจับต้องได้มากขึ้น ซึ่งกล้อง Panorax Zi-A เป็นกล้อง 360 องศาตัวแรกที่ใช้ฟิล์ม 35 มม. โดยผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1958 ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เนื่องจากช่างภาพส่วนใหญ่ต้องการภาพถ่ายที่มีรายละเอียดสูง จึงหันไปให้ความสนใจฟิล์มฟอร์แมตที่ใหญ่กว่า ทำให้กล้องรุ่นนี้เป็นกล้อง 360 องศาเพียงรุ่นเดียวที่ใช้ฟิล์ม 35 มม. จนถึงช่วงปี 1980 และถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 1969 ผู้เชี่ยวชาญในประเทศจีนได้ผลิตกล้อง Sea Gull RL-360 ซึ่งใช้งานร่วมกับฟิล์มขาวดำขนาด 8” และนอกจากนั้นในปี 1979 ชาวอเมริกันยังได้เริ่มถ่ายภาพแลนด์สเคปด้วยฟิล์ม 70 มม. โดยใช้กล้อง Cyclo-Pan 70 จากแคลิฟอร์เนีย และกล้อง Hulcherama ซึ่งเป็นกล้อง 360 องศา ที่ทำงานร่วมกับฟิล์มขนาด 120 หรือ 220
ในช่วงปี 1980 มีกล้องพาโนรามา 360 องศาได้ผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้กล้องพาโนรามาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการใช้เลนส์ที่มีคุณภาพมากขึ้น, ออกแบบให้เป็นระบบไฟฟ้า และสามารถใช้งานแบบแมนนวลได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในกลุ่มกล้องเหล่านี้ มีกล้อง Globuscope 360 องศา 35 มม. ที่ทำงานร่วมกับระบบกลไกมอเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยสปริง, กล้อง Alpa Roto 70 ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์, กล้อง Panoscope ที่ผลิตในปี 1985 และกล้อง Roundshot ที่ผลิตในปี 1988 ซึ่งคุณไม่สามารถหาซื้อกล้องพาโนรามา 360 องศาในราคาที่ต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐได้
นี่คือประวัติศาสตร์ที่เป็นตำนาน และเรากำลังก้าวเข้าสู่การถ่ายภาพในยุคใหม่ พร้อมกับการเปิดตัวกล้อง Lomography Spinner 360° ซึ่งเป็นกล้องที่รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องสุดล้ำในช่วงปี 1980 ผสมผสานการถ่ายภาพพาโนรามาเข้ากันกับฟิล์ม 35 มม. จนถึงตอนนี้ การถ่ายภาพพาโนรามา 360 องศายังคงต้องใช้ความพยายาม รวมทั้งขาตั้งกล้องที่ทนทานและใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก แต่กล้องตัวนี้ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพพาโนรามา 360 องศาได้อย่างง่ายดาย สร้างสรรค์ และราคาจับต้องได้
Question & Answers
จะได้รับภาพจำนวนเท่าใดในม้วนฟิล์มมาตรฐาน 36 ภาพ
Spinner 360° สร้างภาพพาโนรามา 360° ได้มากถึง 8 ภาพบนฟิล์ม 36 ภาพ
ผู้ผลิต
Lomographische GmbH
Kaiserstraße 34/12, 1070 Vienna, Austria
help@lomography.com
ความปลอดภัยและการใช้งาน
- อันตรายจากการสำลัก: ไม่ใช่ของเล่น
- ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
Package Contents
กล้อง Spinner 360°