กล้อง Lomo LC-A 120
กล้อง Lomo LC-A 120
- Get the lomo look and don’t scrimp on the details!
- ความอิ่มตัวของภาพดี คอนทราสต์ที่คมชัด และขอบมืดที่สวยงาม
- กะทัดรัด พกพาง่าย และทนทาน
- กระจก Multi-coated Minigon XL ของแท้
- การตั้งค่าการเปิดรับแสงหลายแบบและไม่จำกัดเวลา
มีสินค้า
Highlights
กล้องถ่ายภาพแนวสตรีทที่ดีที่สุด: ฟิล์มหรือดิจิตอล แทบไม่มีอะไรจะเอาชนะได้
            — The Phoblographer
           
  เข้าร่วมการปฏิวัติ Lomo LC-A ย่อมาจาก Lomography ที่มาจุดประกายของการถ่ายรูปทั่วโลกโดยไม่รู้ตัว
 
  เก็บชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ไว้ในมือคุณ กล้อง Lomo LC-A เดิมมาจากภาษารัสเซียสุดคลาสสิกและเราได้มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ อีกมากมาย
 
  แสดงความงามแบบอนาล็อกขั้นสุด ด้วยความอิ่มตัวที่ลึกของภาพ คอนทราสต์ที่เข้มข้น และขอบมืดที่ดำสนิท
The company’s commitment to resurrecting the rich tones, saturated colors, and pure fun offered by old plastic analog cameras spawned a movement that continues to influence photography today.
            — Uncrate
           
  ถ่ายภาพมีสีสันสดใส ด้วยกระจกเคลือบมัลติโค้ต Minigon XL ระดับพรีเมียม
 
  การโฟกัสโซนที่แม่นยำ ให้คุณเลือกระหว่างช่วงโฟกัสสี่ช่วงด้วยคันโยกเล็กๆ เพียงอันเดียว
ตั้งค่า ISO ได้เยอะมาก ให้คุณเลือกตั้งค่า ISO ได้ตั้งแต่ 100 ถึง 1600 ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพที่น่าทึ่งได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
 
  การเปิดรับแสงนานแบบแฮนด์ฟรีทำได้ง่าย ด้วยการใช้สายลั่นชัตเตอร์และช่องเสียบขาตั้งกล้อง
 
  ใช้ฟิล์มขนาด 120 (medium format) เรามีฟิล์มให้คุณเลือกอีกมากมาย เข้าไปดูกันต่อได้เลย
 
  สร้างภาพซ้อนที่สวยงาม ด้วยการเลื่อนปุ่มง่ายๆ
 
  ระยะโฟกัสใกล้สุด 0.6 ม. คุณจึงอยู่ใกล้วัตถุเพียงแค่ก้าวเดียว
I’m used to carrying a lot of cameras around with me, but the LC-A is so light that I don’t even notice. It’s compact and fully automatic and its 38 mm Minigon glass lens (equivalent to a 21 mm lens on a 35 mm camera) won’t let you down.
            
            Irene Stylianou
           
  Think fast, shoot faster! Take amazing photos quicker than your mind can fathom thanks to programmatic automatic exposure.
 
  หยิบแฟลชตัวโปรดของคุณ มาต่อเข้ากับกล้องตัวนี้ด้วยระบบฮอตชูได้เลย
For a color fanatic such as myself, the strong, punchy colors I get with the LCA 120, no matter which brand or speed of film I use, are part of the seduction […] It’s fast and versatile, essentially a “medium format point and shoot.” For me, the LCA 120 is a keeper.
            — Emulsive
          Story
ไม่ว่าคุณจะไปผจญภัยที่ไหนก็ตาม เราไม่อยากให้คุณพลาดช่วงเวลาที่สำคัญ กล้อง LC-A 120 น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด กล้องขนาดกลางเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล Lomo LC-A กับคติประจำใจ "Don’t think, just shoot" สุดคลาสสิคของเรา
 
  ถ่ายภาพขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัสบนฟิล์ม 120 ที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส, ติด vignette และมาพร้อมคอนทราสต์ที่สวยงามในสไตล์ Lomo LC-A+ มาพร้อมคุณสมบัติมากมาย เช่น การตั้งระยะโฟกัสได้ใกล้ที่สุดที่ 0.6 เมตร, โซนโฟกัสทั้ง 4 โซน, ถ่ายภาพซ้อนได้ไม่จำกัด, โหมดถ่ายภาพแบบชัตเตอร์ B และเลนส์มุมกว้างที่ยอดเยี่ยม
 
  ประวัติ
จุดเริ่มต้นของ Lomographic ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันที่สดใสในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในทศวรรษที่ 80 สุภาพบุรุษสองคนตรวจสอบกล้องคอมแพคญี่ปุ่นตัวเล็กที่เรียกว่า Cosina CX-2 และออกคำสั่งว่าควรผลิตสำเนาที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อการถ่ายภาพของชาวโซเวียต Lomo LC-A แท้จริงทำตาม Cosina อย่างแท้จริง (แต่ไม่สนใจ) เลนส์แก้วที่คมชัด ความไวต่อแสงสูงมาก และตัวเรือนที่ทนทาน ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหภาพโซเวียตและผู้อำนวยการโรงงาน LOMO ดังนั้นด้วยการปรับแต่งจนสมบูรณ์ กล้อง Lomo LC-A จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
1981: กล้องญี่ปุ่น Cosina CX-2 เปิดตัวแล้ว
1982: LOMO PLC เสร็จสิ้นตัวอย่างชุดแรกของกล้อง Lomo LC-A ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อดีตสหภาพโซเวียต
1984: กล้อง Lomo LC-A ชุดแรกเข้าสู่การผลิตจำนวนมาก ในขั้นต้น มีการผลิต 1100 ตัวในแต่ละเดือนสำหรับตลาดรัสเซียเท่านั้น กล้อง Lomo LC-A ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจและกระเป๋าของชาวรัสเซียผู้หลงใหลในการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นานก็ส่งออกไปยังประเทศคอมมิวนิสต์ เช่น ยูเครน โปแลนด์ เชโกสโลวะเกีย และคิวบา
 
  1991: เนื่องกล้องจากทางเอเชียเริ่มมีมากขึ้น ทำให้กล้อง Lomo LC-A เลิกผลิตและมีจำหน่ายเฉพาะบางร้าน อย่างไรก็ตาม ได้มีนักเรียนชาวออสเตรียกลุ่มหนึ่งได้ค้นพบกล้อง Lomo LC-A ในกรุงปราก เชโกสโลวเกีย และความหลงใหลในการถ่ายภาพ และทดลองอย่างไม่หยุดยั้ง พวกเขาเดินเตร่ไปทั่วเมืองหลวงเพื่อเก็บภาพจากกล้องตัวนี้
1992: หลังจากได้เห็นภาพที่ถ่ายออกมาแล้ว ความต้องการกล้อง Lomo LC-A ก็พุ่งพรวด! ในไม่ช้า กล้องสายลับของอดีตกลุ่มตะวันออกตัวนี้ ก็ถูกนำมาใช้ในรูปแบบใหม่ และมี Lomographic Society ที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงเวียนนาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความเป็น Lomography ไปทั่วโลก ทั้งนิทรรศการ ปาร์ตี้ เวิร์คช็อป และทัวร์ ช่วยให้ผู้ที่สนใจ เข้าร่วมไลฟ์สไตล์โลโม่ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โรงงาน LOMO Optics แห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เกี่ยวกับข่าวการระเบิดของ Lomographic ทั่วโลก สมาชิกของ Society ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวใจหัวหน้าโรงงาน LOMO ให้เริ่มการผลิต Lomo LC-A ที่น่าทึ่งอีกครั้ง สร้างความมั่นใจว่านักถ่ายภาพโลโม่ทุกคนทั่วโลกจะรับประกันมั่นคงของรัสเซีย ความมหัศจรรย์แบบอนาล็อก
 
  1994: เกิดภัยพิบัติอย่างหนัก และเนื่องจากมีพนักงานสำหรับผลิตกล้อง Lomo LC-A เพียงแค่ 30 คนเท่านั้น ทำให้การผลิตกล้องทั้งหมดที่ LOMO PLC ถูกยกเลิกและแผนกทั้งหมดต้องปิดตัวลง ด้วยจุดนี้เองทำให้โรงงาน LOMO PLC เริ่มไม่มั่นคง จนทำให้คนงานประมาณ 15,000 คน ถูกบังคับให้ออกจากบริษัท ทำให้เหล่าบรรดา Lomographer หน้าใหม่ต้องเดินทางไปที่มอสโคว์ เพื่อจัดแสดงงานภาพถ่ายโลโม่ในสไตล์ของพวกเขา
1995–1997: ในที่สุดกล้อง Lomo LC-A ได้เริ่มผลิตใหม่อีกครั้งที่ St Petersburg ซึ่งทาง LOMO PLC ได้ส่งกล้องไปจำหน่ายที่ออสเตรียเดือนละ 1,000 ตัว ในตอนนั้นธุรกิจขนาดเล็กที่ออสเตรียหลายๆ ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงเหล่า Lomographer ก็ต้องการกล้องเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ราคากล้องที่ St Petersburg เพิ่มขึ้นสูงถึง 50% และอีกเหตุผลหนึ่งมาจากอดีตสหภาพโซเวียตได้มีการแยกออกจากกัน ทำให้ราคาค่าพลังงานสูงขึ้น จนทำให้ภาพรวมธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อต้องอยู่ในระบบทุนนิยม การเจรจาลำบากมากขึ้น รู้ตัวอีกทีเหล่า Lomographer ก็ไปนั่งอยู่ตรงหน้า Vladimir Putin รองนายกเทศมนตรีเมือง St Petersburg แล้ว ให้ช่วยคำนวณราคาในการผลิตที่ LOMO PLC ใหม่ และในที่สุดปี 1997 ก็ได้กลับมาผลิตกล้อง Lomo LC-A อีกครั้ง
2005: ในช่วงต้นปี Lomographic Society ได้รับข่าวร้ายที่ไม่คาดคิด โรงงาน LOMO Optical จะยุติการผลิตกล้อง Lomo LC-A ทั้งหมด เนื่องจากการผลิตโดยรวมของโรงงานมีความยิ่งใหญ่และใช้เทคโนโลยีที่สูงมากขึ้น พวกเขาจึงไม่สามารถสนับสนุนการผลิตกล้องตัวเล็กๆ (แต่ประเมินมูลค่าไม่ได้) อีกต่อไป ในตอนแรกเหล่า Lomographer ก็ไม่ได้รับข่าวสารนี้ แต่พอรู้เข้าก็เริ่มต้นวางแผนกันใหม่ โดยเราได้สร้างกล้อง Lomo ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมผสมผสานคุณสมบัติที่ทุกคนรักจากกล้องรุ่นเดิม และเพิ่มลูกเล่นอื่นๆ เข้าไปด้วย
2006–2007: กล้อง Lomo LC-A+ เวอร์ชั่นพัฒนาใหม่โดยถอดแบบมาจากกล้อง Lomo LC-A ได้เปิดตัวขึ้น ซึ่งมาพร้อมหน้าตาที่คลาสสิกเป็นเอกลักษณ์ และมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มมากขึ้น โดยเกือบทุกอย่างย้ายไปผลิตที่ประเทศจีนแทน
2009: เป็นปีที่กล้อง Lomo LC-A ครบรอบ 25 ปี และเราก็ได้เฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้โดยการเปิดตัวกล้อง LC-A+ รุ่น 25th Anniversary และรุ่น “No Nukes” ที่ออกแบบโดยศิลปินชาวเกาหลีใต้ขึ้น รวมทั้งเรายังมีการจัดงานปาร์ตี้, โปรเจกต์พิเศษ, เวิร์คช็อป และจัดกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
2010: มีการผลิตกล้องรุ่นพิเศษขึ้นสองรุ่น ได้แก่ กล้อง LC-A+ White และกล้อง LC-A+ Gold นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนผู้หลงไหลในการถ่ายภาพฟิล์มจากทั่วโลกรวม 10 กลุ่ม ได้ร่วมทีมกันมาเพื่อแข่งขัน LC-A Race โดยเริ่มการแข่งขันจากสี่มุมทั่วโลก โดยต้องกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของ Lomography ที่กรุงเวียนนา ซึ่งเราอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์เพียงแค่ GPS, โน้ตบุ๊ก และกล้อง LC-A+ เท่านั้น
2011–2014: ในปีนี้ เราได้เปิดตัวกล้องคอมแพคที่ถ่ายภาพได้กว้างที่สุดในโลกอย่าง Lomo LC-Wide ซึ่งเป็นกล้องตัวใหม่ล่าสุดในตระกูล LC-A โดยกล้องตัวนี้มาพร้อมเลนส์มุมกว้างแบบพิเศษ 17 มม. Minigon-1 และจากนั้น เราได้เปิดตัว LC-A+ Instant ที่จะเปลี่ยนจากกล้อง LC-A+ ให้กลายเป็นกล้องที่สามารถถ่ายภาพ Instant ได้อย่างง่ายดาย
 
  2021: เราได้เฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี ของกล้อง LC-A+ โดยการจัดกิจกรรมและมอบส่วนลดพิเศษมากมาย ซึ่งปัจจุบันกล้อง LC-A+ ถือเป็นกล้องอนาล็อกระบบอัตโนมัติขนาด 35 มม. เพียงตัวเดียวที่ยังคงผลิตใหม่ ในขณะที่ผู้ผลิตรายใหญ่เจ้าอื่นๆ ได้หยุดผลิตกล้องไปนานแล้ว นับว่ากล้องตัวนี้ยังคงเป็นตำนานและยังคงได้ความนิยมตั้งแต่อดีตมาจากถึงปัจจุบันเลย
 
  กล้องในตระกูลเดียวกัน
กล้องตระกูล Lomo LC-A ได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มีการเปิดตัวสินค้าในตระกูลนี้อีกมากมาย ทั้งกล้อง LC-Wide, กล้อง LC-A 120 รวมทั้งอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยให้การถ่ายภาพของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น
 
  อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
เรื่องราวความโลดโผนของกล้อง Lomo LC-A ยังมีให้อ่านกันเพิ่มเติมแบบจุใจในหนังสือ LC-A Big Book ที่เปรียบเหมือนสารานุกรมข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งมีภาพถ่ายที่ถ่ายโดยเหล่า Lomographer ทั่วโลก ซึ่งใช้เวลาในการรวบรวมถึงสองปีเต็ม อัดแน่นไปด้วยภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ที่เป็นตำนาน, ข้อมูลที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน เริ่มตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1980 ไปจนถึงการดิ้นรนเพื่อให้กล้อง Lomo LC-A+ ที่ทุกคนรักได้ผลิตขึ้นมาจริงๆ
ผู้ผลิต
Lomographische GmbH  
Kaiserstraße 34/12, 1070 Vienna, Austria  
help@lomography.com
ความปลอดภัยและการใช้งาน
- อันตรายจากการสำลัก: ไม่ใช่ของเล่น
- ไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
ข้อมูลเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้ผลิต (EPR) ของสหภาพยุโรป
ด้วยความมุ่งมั่นของเราต่อความยั่งยืน เราจึงรับผิดชอบต่อวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ Lomography ของเราตลอดวงจรชีวิต รวมถึงการจัดการขยะและการรีไซเคิลอย่างเหมาะสม อ่านนโยบายเพิ่มเติมได้ที่นี่
Package Contents
- กล้องฟิล์ม LC-A 120
- สายหนังคล้องกล้อง
- สายลั่นชัตเตอร์
- แบตเตอรี่ LR44
- คู่มือการใช้งาน
 
      
         
     
     
     
     
    